สะพานปลาหัวหิน จุดท่องเที่ยวซื้อขายอาหารทะเลราคาถูกกว่าท้องตลาด

เมื่อมาเยือนจังหวัดประจวบคีรีขัน อย่าพลาดไปแวะไปเยี่ยม ’สะพานปลาหัวหิน’ เป็นตลาดขายปลาที่สดที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นสะพานทอดยาวมุ่งหน้าสู่ทะเล ใช้สำหรับเป็นท่าเทียบเรือประมง ในทุกช่วงเช้าจะมีการส่งอาหารทะเลสดใหม่ที่จับมาได้มาขายในบริเวณสะพาน ซึ่งจะเต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ค้ามากมายเดินทางกันมาแต่เช้า เพื่อเลือกซื้ออาหารทะเลสดๆ ไปเป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร หรือนำไปขายต่อเพื่อให้ได้กำไร เพราะราคาที่สะพานปลาขายถูกกว่าท้องตลาดอย่างมาก ในขณะที่นักท่องเที่ยวก็มาเดินเลือกซื้อกุ้ง หอย ปู ปลา กันอย่างสนุกสนานเพื่อนำกลับไปปิ้งย่างในที่พักของตัวเอง

นอกจากสะพานปลาจะเป็นแหล่งขายอาหารทะเลที่สดใหม่แล้ว ยังเป็นสถานที่เหมาสำหรับเดินเยี่ยมชมวิวท้องฟ้าสีครามและทะเลอีกด้วย เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวประมงว่า ในกิจวัตรแต่ละวันพวกเขาทำอะไรกันบ้าง ถ้าลองมองลงไปที่ใต้สะพานจะสังเกตได้ว่ามีปลาชุกชุมอยู่เต็มไปหมด เปรียบเสมือนสวรรค์ของนักตกปลาที่ต่างนั่งตกปลากันอยู่ริมสะพาน ในขณะที่ยามเย็นจะมีบรรดานักท่องเที่ยวเดินมาที่ชายสะพานเพื่อรอชมกับช่วงเวลาที่งดงามที่สุดของวัน หรือก็คือ ‘ชมพระอาทิตย์ตกดิน’ ซึ่งจะสาดส่องแสงสีเหลืองทองอร่ามตัดกับท้องฟ้าสีครามจนเกิดเป็นภาพที่งดงาม

ประวัติของสะพานปลาหัวหิน จากอดีตสู่ปัจจุบัน

ในสมัยก่อนสะพานปลาแห่งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงกระเกษตรฯ ซึ่งถูกสร้างขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อปี พ.ศ. 2506 ทรงเห็นว่าสะพานแห่งนี้จะเป็นศูนย์รวมในการซื้อขายอาหารทะเลของชาวประมง นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาชาวบ้านก็ได้เริ่มช่วยกันอนุรักษ์สะพานแห่งนี้ให้อยู่ในสภาพดีเสมอ อีกทั้งยังใช้เป็นพื้นที่ในการทำมาหากิน ซึ่งทางรัฐบาลก็วางแผนสนับสนุนให้มีการเปิดร้านค้าขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่ เพื่อใช้ในการซื้อขายอาหารทะเล

ล่าสุดนี้ก็มีโครงการที่กำลังนำร่องพัฒนาสะพานปลาใหม่ ให้เป็นตลาดที่มีคุณภาพทัดเทียมกับประเทศญี่ปุ่น พร้อมหาแนวทางในการพัฒนาให้สะพานแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในชุมชน นอกจากนี้ยังต้องลดปัญหาด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยลง ปัจจุบันนี้ก็มีการนำตาข่ายมาดักขยะตามท่อที่ปล่อยน้ำออกสู่ทะเล ซึ่งก็ช่วยดักจับขยะไม่ให้ลอยออกสู่ท้องทะเล แนวคิดพัฒนาเหล่านี้เป็นต้นแบบที่นำมาจากตลาดปลาซึกิจิ ที่เป็นตลาดปลาชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น

เหตุผลที่ใช้ต้นแบบของประเทศญี่ปุ่น นั่นก็เพราะตลาดปลาของญี่ปุ่น ถือได้ว่าเป็นตลาดที่มีคุณภาพมากที่สุดในโลก เนื่องจากเป็นประเทศเกาะที่อยู่กลางทะเล จึงมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในด้านการบริหารจัดการด้านประมงดีเยี่ยม จึงเป็นเรื่องที่ดีหากจะศึกษาจากโมเดลที่ประสบความสำเร็จแล้ว ซึ่งรัฐบาลเองก็เล็งเห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ที่จะนำมาพัฒนาภายในชุมชนได้ ส่วนจะมีการพัฒนาออกมาในรูปแบบใดก็ต้องมาติดตามดูกันต่อไป โดยมีประธานกรรมการองค์การสะพานปลาเป็นผู้รับผิดชอบในการดูแล พร้อมผลักดันให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์

ซึ่งทางเอกชนก็ได้รับการว่าจ้างจากรัฐบาลให้เข้ามาดูแลการซ่อมแซมสะพานเก่า โดยเริ่มดำเนินการซ่อมแซมตั้งแต่ คาน พื้น รวมถึงส่วนอื่นๆ ที่จำเป็นต้องได้รับการซ่อมแซม ในขณะที่ทางเทศบาลก็ได้มีจัดหารถเครนมาช่วยอำนวยความสะดวกในการซ่อมแซมสะพานต่อไป เมื่อสะพานแห่งนี้ได้รับการซ่อมแซมจนเสร็จ ก็จะเปิดให้พ่อค้าแม่ค้ามาขายของกันได้ ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศให้มาจับจ่ายใช้สอยกันที่สะพานปลามากขึ้น แถมยังเป็นการแก้ปัญหาปากท้องของชาวบ้านอีกด้วย

วัดเขาตะเกียบ หัวหิน เยี่ยมชมพระปางห้ามสมุทรขนาดใหญ่

หัวหินเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวอย่างแท้จริง ที่นี่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งภูเขา ชายหาด ท้องฟ้าสีคราม และน้ำทะเลใส ติดอันดับ 1 ใน 5 สถานที่ยอดนิยมของประเทศไทยที่ห้ามพลาด ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญที่นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศตัดสินในเดินทางมาเที่ยว แต่นอกจากความงามทางธรรมชาติแล้ว ที่เขาตะเกียบยังมีสิ่งที่เรียกว่าความงดงามด้านวัฒนธรรมอีกด้วย หรือที่เราจะพูดถึงก็คือ ‘วัดเขาตะเกียบ’ ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาตะเกียบ เป็นวัดที่มีความสำคัญของชาวบ้านที่ต่างเดินทางมาสักการะบูชาอย่างไม่ขาดสาย แถมยังมีสถาปัตยกรรมที่งดงาม มีจุดชมวิวที่มองเห็นความงามของชายหาดหัวหินได้แบบเต็มตา เมื่อมองไปรอบๆ ยังเห็นวิวของตัวเมืองหัวหินที่ส่องประกายในยามค่ำคืนอีกด้วย ในบริเวณยังมีเพื่อนๆ ตัวซนนั่งจ้องอยู่ห่างๆ แต่ทางเจ้าหน้าจะเตือนอยู่เสมอว่าอย่าให้อาหารลิงพวกนี้ เพราะมันจะเข้ามาลุมแย่งกันเป็นฝูงเลยล่ะ

สำหรับคนที่อยากเดินทางมาเยี่ยมชมวัดเขาตะเกียบนั้น การเดินทางไม่ได้ยุ่งยากเลย ซึ่งเขาตะเกียบอยู่ห่างจากอำเภอเมืองไปทางใต้ประมาณ 15 กิโลเมตร สิ่งที่น่าสนใจของเขาตะเกียบคือเป็นเขาที่มีลักษณะยื่นออกตรงออกสู่ใจกลางทะเล ทำให้มีจุดชมวิวสวยงามหลายแห่ง วัดเขาตะเกียบนั้นเชื่อว่ามีที่มาจากนิทานเรื่อง ตาม่องล่าย ซึ่งเราจะมาพูดถึงกันในบทถัดไป กว่าที่วัดแห่งนี้จะมีผู้คนเข้าถึงได้มากมายขนาดนี้ได้ ชาวบ้านต้องร่วมแรงร่วมใจกันทำงานอย่างหนัก เพื่อที่จะช่วยสร้างถนนขึ้นไปสู่ยอดเขาจนสำเร็จ โดยวัดเขาตะเกียบเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปปางห้ามญาติ คืออยู่ในท่ายืน ยกพระหัตถ์ขึ้น พร้อมกับยื่นพระหัตถ์ไปข้างหน้า มีที่มาจากการที่พระพุทธเจ้าไปห้ามสงครามระหว่างกษัตริย์ทั้งสองตระกูล ไม่ให้ให้เข่นฆ่ากันเพียงเพราะเรื่องเล็กน้อย และเตือนสติให้คิดว่าอะไรจะสำคัญไปกว่าความเป็นพี่น้อง

อีกหนึ่งอย่างที่สำคัญที่จะพลาดไม่ได้เลย หากเดินทางมาถึงแล้วจะต้องแวะไปสักการะ ‘พระเขี้ยวแก้ว’ ที่เชื่อว่าใครก็ตามที่ขอพรกับพระธาตุ จะช่วยให้พวกเขาได้สุขสมหวังดังใจปรารถนา ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้วัดแห่งนี้เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะคนจีนที่เดินทางมาสักการะองค์เจ้าแม่กวนอิมพันมือขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ภายในวัดอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีของแถมคือจุดชมวิวที่สวยที่สุดที่หาดูไม่ได้ง่ายๆ ที่ไหน ซึ่งสามารถมองเห็นทัศนีภาพอันงดงามของหาดหัวหินได้อย่างทั่วถึง

นิทานตาม่องลาย

เป็นเรื่องราวของครอบครัวตาม่องลาย กับภรรยาที่ชื่อ รำพึง ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งร่วมกับลูกสาวที่หน้าตาสะสวยชื่อ ‘ยม’ ความงามของเธอเป็นที่เลืองลือไปทั่วในหมู่ชาวประมง รวมถึงพ่อค้าที่มาติดต่อค้าขายด้วย ข่าวนี้ดังไปถึงหู ‘เจ้าลาย’ บุตรชายของเจ้าเมืองที่วางแผนปลอมตัวเป็นชาวประมง เพื่อจะมาดูความงามด้วยตาของตัวเองทั้งสองข้าง ด้วยความที่เขาเป็นคนที่นิสัยดีมาก ทำให้แม่รำพึงให้ทั้งสองคนได้พบเจอกันได้ แต่ตาม่องล่ายไม่เห็นชอบจึงหาทางทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสอง

ต่อมาเจ้ากรุงจีนก็เข้ามาร่วมแจมด้วยโดยเขาตีสนิทและส่งสินสอดมาให้ตาม่องลายโดยไม่ให้แม่รำพึงรู้ เช่นเดียวกันเจ้าลายก็ส่งมาให้แม่รำพึงอย่างลับๆ เมื่อทั้งสองมาพบกันบนอ่าวน้อย ทำให้เกิดความโมโหจนขว้างปาข้าวของใส่กัน เช่น หมวกที่แม่รำพึงขว้างใส่แต่พลาดตรงไปทางอ่าวเกาะหลัก จนเป็นที่มาของเขาล้อมหมวก ส่วนตาม่องลายก็ขว้างข้าวของกระจัดกระจายไปทั่ว หนึ่งในนั้นคือตะเกียบ ที่สุดท้ายกลายมาเป็นเขาตะเกียบนี่เอง

บ้านศิลปิน หัวหิน จุดท่องเที่ยวเยี่ยมชมงานศิลปะ

เมื่อนึกถึง ‘หัวหิน’ ทุกคนก็ต้องนึกภาพภูเขา ทะเล ชายหาด กันแล้วใช่ไหม แต่ใครจะรู้ว่าลึกเข้าไปในหัวหินยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่รอให้เราไปสำรวจกันอยู่ มันเป็นจุดแวะพักที่เหมาะสำหรับถ่ายรูป แถมเดินทางไปก็สะดวกกับ ‘บ้านศิลปิน หัวหิน’ เป็นบ้านที่เต็มไปด้วยผลงานศิลปะที่เริ่มสะสมโดยคุณ ชุมพล ดอนสกุล เปิดครั้งแรกเมื่อปี 2543 หรือก็คือเมื่อประมาณ 18 ปี ก่อน ปัจจุบันนี้มีผู้รับสืบทอดต่อคืออาจารย์ทวี เกศางาม ที่เป็นผู้ดูแลบ้านศิลปินที่มีขนาดใหญ่ถึง 9 ไร มีผลงานศิลปะมากมายทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็นงานไม้ ภาพเขียน หรือของเก่านานาชนิด ซึ่งแต่ละชิ้นก็ล้วนเปี่ยมไปด้วยคุณค่าและเรื่องราวในตัวของมัน

นอกจากนี้ภายในยังมีร้านอาหาร ‘BaanSillapin Art & Café’ ซึ่งรายล้อมไปด้วยร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ เป็นสถานที่เหมาะสำหรับสั่งเครื่องดื่มเย็นๆ หรือจิบกาแฟ ท่ามกลางผลงานศิลปะงดงามที่อยู่รอบตัวเรา ถ้าคิดว่าที่นี่หมดแค่นี้แล้ว ใจเย็นก่อนเพราะยังมีอีกหลายแห่งที่เรายังไม่ได้พาทุกคนไป เพราะด้านซ้ายมือของเราจะมีอาคารสำหรับจัดแสดงศิลปะให้เราเข้าไปชมได้อีกด้วย ด้านในจะมีผลงานภาพวาดที่สวยงามให้เราถ่ายรูปได้ตามอัธยาศัยหรือจะเข้าไปทางขวาซึ่งสถานที่จัดแสดงผลงานชิ้นเอกของ อาจารย์ทวี เป็นภาพวาดบึงที่เต็มไปด้วยดอกบัวขนาดใหญ่ มีความละเอียดสวยสดงดงาม โดยเฉพาะสีสันของภาพที่โดดเด่นเป็นพิเศษ ชื่อของภาพนี้คือ ‘’ราชินีดอกไม้ที่เกิดจากโคลนตม”

ภายในบ้านศิลปินประกอบไปด้วยผลงานศิลปะมากกว่าหลายร้อยชิ้น ที่อาจารย์ทวีเร่มสะสมมานานกว่าหลายสิบปี และจำนวนเหล่านี้ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากบรรดาศิลปินหน้าใหม่ที่คอยสร้างสรรค์ผลงานเพิ่มอยู่ตลอดเวลา สำหรับใครที่กำลังมองหาผลงานศิลปะติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วย ที่นี่ก็มีสตูดิโอของศิลปินมากกว่า 20 ชีวิตที่สร้างสรรค์ผลงานที่มีเอกลักษณ์ในแบบฉบับของตัวเอง โดยจะแบ่งโซนจัดแสดงออกเป็นส่วนๆ สำหรับผลงานของมืออาชีพกับผลงานมือสมัครเล่น ถ้าไปถูกเวลาก็จะเห็นเหล่าศิลปินแสดงฝีมือการวาดภาพกันแบบสดๆ ซึ่งเราสามารถเข้าไปรับชม พูดคุย หรือติดต่อซื้อผลงานได้ตามสะดวก แต่มีอย่างหนึ่งที่ต้องระมัดระวังนิดหนึ่ง คือไม่ควรพูดคุยหรือส่งเสียงดังที่อาจรบกวนศิลปินหรือคนอื่นๆ

กิจกรรมที่มีให้ทำในบ้านศิลปิน

หากมากับครอบครัวที่มีเด็กมาด้วย ที่นี่ก็มีห้องชื่อ ‘โรงเล่นศิลปะ’ สำหรับสอนศิลปะสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความสนใจด้านศิลปะได้ลงมือสร้างผลงานของตัวเอง โดยจะสอนเทคนิคในการวาดรูป การระบายสีลงบนวัตถุต่างๆ ช่วยเสริมสร้างจินตนาการ และทักษะด้านศิลปะของทุกคน โดยมีค่าบริการสำหรับเด็ก 100 บาท/ชั่วโมง และผู้ใหญ่ 150 บาท/ชั่วโมง

งานนี้เรียกว่าได้ครบทั้งเที่ยวเล่น ได้กินอาหารอร่อยๆ แถมยังได้ชมผลงานศิลปะสวยงามอีกต่างหาก แบบนี้ไม่คุ้มก็ไม่รู้ว่าอย่างไหนที่เรียกว่าคุ้มอีกแล้ว เกือบลืมอีกอย่างหนึ่งที่พลาดไม่ได้เลยคือทุกวันเสาร์จะมีจัดงาน ‘ตลาดนัดศิลปิน’ ซึ่งในงานจะมีการแสดง ดนตรีสด มายากล รวมถึงกิจกรรมต่างๆ มากมายต้อนรับนักท่องเที่ยว ถ้าอยากจะรู้ว่าความสนุกเป็นยังไง ก็ต้องลองมาสัมผัสด้วยตัวเองในวันเสาร์แล้วล่ะ

สำหรับคนที่อยากเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์นี้ด้วยตัวเอง ‘บ้านศิลปิน หัวหิน’ ตั้งอยู่ที่ 81/14 ถนน หัวหิน 70 ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดทำการทุกวัน อังคาร – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. จนถึง 17.00 น. มีค่าบริการสำหรับเข้าชม 40 บาท เด็กเล็ก 20 บาท สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 032-8271555 หรือ 087-0477125 อีกหนึ่งช่องทางในการติดต่อคือเว็บไซต์ www.huahinartistvillage.com

เดอะ เวเนเซีย หัวหิน จุดท่องเที่ยวสไตล์อิตาลีในประเทศไทย

หัวหินเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ติดอันดับของประเทศไทย ถือเป็นทำเลทองในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่หลายคนจับตามอง ในขณะที่นักลงทุนมากมายได้เริ่มลงมือไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้หัวหินมีแหล่งท่องเที่ยวผุดขึ้นมาใหม่มากมาย ขนาดที่เยอะจนเที่ยวไม่หมดกันเลยทีเดียว และอีกหนึ่งสถานที่ๆ ที่จะพามาแนะนำในวันนี้ก็คือ ‘เดอะ เวเนเซีย หัวหิน’ (The Venezia Hua Hin) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวไตล์ยุโรป ที่มีการตกแต่งอย่างหรูหราแบบฉบับของเมืองเวนิส เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นเมืองที่มีการสัญจรทางน้ำหนาแน่นมากที่สุดในโลก ด้านในเต็มไปด้วยร้านค้าที่ประดับไปดาด้วยผลงานประติมากรรมที่งดงาม ตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ ทั่วสองฝั่งของคลอง

เดอะ เวเนเชีย หัวหิน เต็มไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ซึ่งมีแบบจำลองมาจากสถานที่สำคัญของเมืองเวนิส เช่น จัตุรัสซานมาร์โค (Saint Mark’s Square) ขนาด 4,000 ตารางเมตร เป็นแลนด์มาร์คที่โด่งดังของเมืองเวนิส ใช้ลานกว้างขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นพื้นที่รองรับในการจัดกิจกรรมต่างๆ หรือแม้แต่หอระฆังซันมาร์โก (St Mark’s Campanile) ความสูง 23 เมตร ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเวนิส เป็นตัวแทนของผู้หญิงทุกคนในเมือง สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของเดอะ เวเนเชีย หัวหินคือ แกรนด์คาแนล เป็นที่คลองยาวขนาด 200 เมตร ซึ่งจะมีเรือกอนโดล่าล่องไปตามคลอง ช่วยสร้างบรรยากาศเหมือนกับเราได้ไปอยู่ในเมืองเวนิสจริงๆ

ข้อมูลของโครงการเดอะ เวเนเซีย หัวหิน

เดอะ เวเนเซีย หัวหิน เป็นโครงการมูลค่า 1,200 ล้านบาท มีพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 46 ไร่ และพื้นที่ใช้สอยมากถึง 73,000 ตารางเมตร ใช้สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลก มีพื้นที่สำหรับจอดรถได้มากถึง 2,000 คัน พร้อมกับบริการรถรับส่ง นอกจากนี้พื้นที่จะถูกแบ่งออกเป็น 364 ยูนิต เพื่อใช้สำหรับเป็นโซนร้านค้าต่างๆ เช่น โวนร้านอาหาร ซึ่งมีการตกแต่งแบบยุโรป โซนเสื้อผ้าแฟชั่น โซนสำหรับบริการนักท่องเที่ยว ซึ่งประกอบไปด้วย ร้านหนังสือ ธนาคาร และร้านสะดวกซื้อ สุดท้ายคือโซนงานศิลปะ ที่จะขายสินค้าของใช้ตกแต่งบ้าน ภายในยังเต็มไปด้วยกิจกรรมมากมาย เช่น ล่องไปในแกรนด์คาแนลกับเรือกอนโดล่า หรือนั่งรถไฟวิ่งรอบเมือง หรือตลาดนัดยามเช้าที่ขายของกินมากมาย

สำหรับเด็ก หรือสาวๆ ด้านหลังของโครงการยังมีฟาร์มขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยสัตว์หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น น้องกระต่าย แกะ ม้า แม้แต่กวางก็มาร่วมแจมด้วยล่ะ โดยเพื่อนๆ สามารถแวะไปถ่ายรูปกับสัตว์สุดน่ารักเหล่านี้ได้ที่ด้านหลัง หรือจะพาน้องๆ ไปเล่นในสวนสนุก Playland ที่จัดเตรียมเอาไว้ให้สำหรับน้องๆ อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือห้องจัดแสดงภาพสามมิติ 3D Art Gallery ที่มีภาพสามมิติสุดแนวมากถึง 60 ภาพ ให้เลือกถ่ายกันอย่างสนุกสนาน หรือจะไปถ่ายรูปในบ้านกลับหัว ‘Upside Down House’ ที่เป็นไฮไลท์เด็ดของเดอะ เวเนเชีย หัวหิน ซึ่งจะทำให้โลกของคุณไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะภายในบ้านไม่ว่าจะเป็นเตียงนอน โซฟ้า โต๊ะ หรือแม้แต่ทางเดินเมื่อถ่ายภาพออกมาแล้ว เราจะได้ภาพที่กลับหัวแบบสมจริงสุดๆ เอาไว้อวดเพื่อนๆ ให้อิจฉากันเล่น

สำหรับคนที่สนใจอยากลองไปสัมผัสกับความสนุกเหล่านี้ด้วยตัวเองที่เดอะ เวเนเซีย โครงการนี้ตั้งอยู่ที่ 1899 ถนน เพชรเกษม ตำบล ชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 2 ชั่วโมง อยู่ห่างจากสนามบินหัวหินเพียง 700 เมตร ใกล้กับโรงแรม สนามกอล์ฟ และมหาวิทยาลัยนานาชาติ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์  032442823-5 หรือ 083-8422301 ค่าบริการในการเข้าชม 50 บาท หากมาทำธุระที่ธนาคาร หรือซื้อสินค้าภายในโครงการ สามารถมารับเงินคืนที่หน้าประตูได้เลยครับ

ชม ไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ วินยาร์ด ณ หัวหิน ท่ามกลางบรรยากาศแห่งขุนเขา

ใครบอกว่าหัวหินมีดีแค่ทะเล ขอบอกเลยว่านอกจากความงามของทะเลแล้ว หัวหินยังเป็นแหล่งเพาะปลูกองุ่นที่อุดมสมบูรณ์อย่างมาก ถ้าไม่เชื่อก็ต้องลองมาสัมผัสด้วยตัวเองกับ ‘ไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ วินยาร์’ ที่เป็นไร่องุ่นที่สวยงามสุดเพียงแห่งเดียวในประจวบคีรีขันธ์ เกิดจากการทดลองเพาะปลูกเมื่อปี พ.ศ. 2547 โดยแปรสภาพคอกช้างมาเป็นไร่องุ่นขนาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันนี้ใช้เป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบที่สำคัญ ‘มอนซูน แวลลีย์’ ไวน์รสชาติกลมกล่อมสัญชาติไทย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถซื้อกลับไปลิ้มลองกันดูได้

ไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ วินยาร์ด เป็นไร่องุ่นขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว้างมากถึง 1,200 ไร่ โดยแบ่งเป็นพื้นที่สำหรับเพาะปลูกองุ่นจำนวน 200 ไร่ ซึ่งพื้นที่บริเวณโดยรอบจะถูกล้อมไปด้วยภูเขาใหญ่ และต้นไม้มากมาย องุ่นสายพันธุ์หลักที่เพาะปลูกคือ ‘ชีราส’ แต่นอกจากนี้ก็ยังมีการทำลองนำสายพันธุ์อื่นๆ มาเพาะปลูกด้วยเช่นกัน จุดเด่นของไร่องุ่นแห่งนี้อยู่ตรงที่สภาพภูมิอากาศที่เป็นใจ ซึ่งมีความเหมาะสมกับการเพาะปลูกองุ่นโดยเฉพาะ ด้วยเหตุนี้เองทำให้ผลผลิตออกมามีคุณภาพ สามารถส่งออกไปต่างประเทศจนได้รับรางวัลมากการันตีมาแล้วมากมาย

การมาเที่ยวที่ไร่องุ่นแห่งนี้ เราจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่งดงาม รายล้อมไปด้วยไร่องุ่นที่ไกลสุดลูกหูลูกตา นอกจากนี้ทางไร่องุ่นยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกอีกมากมาย เช่น การเดินชมแปลงองุ่น หรือการศึกษาวิถีชีวิตของชาวสวน ได้เรียนรู้และเดินเก็บองุ่นด้วยตนเอง หรือถ้าอยากจะชมวิวบรรยากาศโดยรอบของไร่องุ่นให้ทั่ว ก็อย่าลืมใช้บริการของรถจี๊ปที่จะพาทุกคนนั่งชมวิวไปแบบชิวๆ ในระหว่างที่พนักงานจะคอยให้ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับองุ่นต่างๆ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ อีกกิจกรรมหนึ่งนอกเหนือจากการนั่งรถก็คือการขี่ช้างชมวิว อย่างที่บอกว่าที่นี่เคยเป็นคอกช้างเก่ามาก่อน แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเลิกเลี้ยงช้างแล้วซักหน่อย

เมื่อทุกคนเดินเที่ยวไร่องุ่นกันอย่างเหน็ดเหนื่อย ทางไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ก็ยังมี ‘The Sala’ เป็นห้องอาหารแบบผสมผสาน ที่มีอาหารแบบยุโรปและเอเชียคอยให้บริการนักท่องเที่ยว เพื่อเติมพลังให้กับทุกคนได้กลับไปอย่างอิ่มหน่ำสำราญ โดยภายในห้องยังมีบริการเครื่องดื่มและไวน์ให้เลือกซื้ออีกด้วย ถัดมาอีกส่วนถ้ากำลังมองหาของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้าน ที่นี่ก็ยังมีสินค้าต่างๆ ที่เป็นผลผลิตจากองุ่นให้เลือกซื้อกันตามอัธยาศัย

การเดินทางมาเที่ยวไร่องุ่นหัวหินฮิลส์

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเยี่ยมชมที่สุดคือเดือน กุมภาพันธุ์ – มีนาคม จะเป็นช่วงเวลาที่องุ่นออกผลงามที่สุด เราจะได้เห็นพวงองุ่นสดจากต้น แถมในช่วงนี้จะมีงานเฉลอมฉลองก่อนการเก็บเกี่ยวประจำปีอีกด้วย ล่าสุดนี้เองที่ทางไร่องุ่นเพิ่งจะได้ฉลองครบรอบ 10 ปี ในการผลิตไวน์ ‘มอนซูน แวลลีย์’ ที่ได้รับรางวัลจากนานาชาติ ซึ่งในงานก็มีการเชิญบรรดาเชิฟมาจัดแสดงฝีมือการทำอาหารมากถึง 10 คน ภายในงานได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากมาย ซึ่งอาหารทุกเมนูจะเสิร์ฟมาพร้อมกับไวน์มอนซูน แวลลีย์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นพระเอกของงานอีกด้วย

สำหรับคนที่อยากได้ช่วงเวลาสุดพิศษ ทางไร่องุ่นก็มีจัดแพ็กเกอร์ดินเนอร์หรูในราคา 3,500 บาทต่อคน ที่จะให้บริการอาหารและเครื่องดื่มคุณภาพกันแบบเต็มอิ่ม สำหรับการเดินทางมาที่ ‘ไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ วินยาร์ด’ (ชื่อใหม่เปลี่ยนเป็น มอนซูนแวลลีย์วินยาร์ดฮาร์เวส) ตั้งอยู่ที่ 1 หมู่ที่ 9 ตำบล หนองพลับ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.monsoonvalley.com หรือโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโดยตรงที่หมายเลข 081-701-0222 หรือ 081-701-0444

5 หาดทะเลที่สวยที่สุดในหัวหิน

ทะเลหัวหินนับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวมากมายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ไม่เพียงแค่ความสวยเท่านั้น ปริมาณชายหาดก็เป็นสิ่งสำคัญของทะเลหัวหินด้วยเหมือนกัน หากชอบทะเลหัวหินเราขอท้าว่าเคยไปชายหาดสุดสวย 5 แห่งนี้หรือยัง ถ้ายังรีบไปเช็คอินให้ครบเลย

หาดหัวหิน

แห่งแรกถือว่าเป็นหาดที่ต้องมาให้ได้เลย แต่น่าแปลกที่หลายคนไม่เคยไป นั่นคือ หาดหัวหิน หาดที่เป็นเหมือกับสัญลักษณ์การท่องเที่ยวทางทะเลของหัวหินชายหาดหลักที่มีบริการของภาครัฐไว้อย่างดี อบอุ่น ท่องเที่ยวสบายใจ ส่วนตัวหาดเป็นหาดที่มีพื้นที่กว้าง ไม่มีของขายมาเกะกะสายตา พร้อมกับต้นมะพร้าวปลูกตามแนวชายหาด ตอนเย็นเดินเล่นสายลม เกลียวคลื่น แสงอาทิตย์สีส้ม นี่แหละ ชายหาดหัวหินของจริง

สวนสาธารณะ

ลองนึกภาพเราวิ่งออกกำลังกายในสวนสาธารณะแล้วมองทางขวาออกไปเป็นท้องทะเลกว้างใหญ่ ตัดภาพกับดวงอาทิตย์กำลังจะลาลับไปในตอนเย็นมันคงจะเป็นการวิ่งที่ดีครั้งหนึ่งทีเดียว เรากำลังพูดถึง สวนสาธารณะแห่งเดียวที่ติดทะเล พิกัดตั้งอยู่ที่ซอยหัวหิน 19 ตรงไปจนสุดซอยแล้วเลี้ยวขวาเจอเลย ใครมองหาสถานที่พักผ่อนแบบเงียบหน่อยอันนี้ดี

หาดตะเกียบ

มาชายหาดที่คึกคักก่อนหน่อย เราขอแนะนำพิกัดเขาตะเกียบเป็นอีกหนึ่งชายหาดที่มีคนมาเที่ยวเยอะทีเดียว สถานที่พัก ร้านอาหาร ร้านขายของเยอะ พิกัดอยู่ใกล้เขาตะเกียบ แนะนำว่าควรลงทะเลที่ซอย 1,3 และ 5 จะได้พิกัดการเล่นน้ำที่ดีกว่า ส่วนน้ำทะเลสะอาด เล่นได้หมด น้ำไม่ลึกเท่าไร

สวนสนประดิพัทธ์

ใครไปเที่ยวอุทยานราชภักดิ์เสร็จแล้ว อยากเล่นน้ำทะเลต่อก็ไม่ต้องไปไหนไกล ด้านตรงข้ามก็ลงเล่นทะเลได้เลย สวนสวนประดิพัทธ์เป็นเป้าหมายของเรา น้ำทะเลใส สะอาด ขยะน้อยมาก เนื่องจากมีพี่ทหารมาคอยดูแลตลอด ได้ทั้งมุมสวนสาธารณะสีเขียวสบายตา หรือ จะนั่งริมทะเลรับลมก็ทำได้ตามสะดวก

หาดเขาเต่า

อีกหนึ่งจุดลงเล่นน้ำทะเลที่เราแนะนำ เนื่องจากความสวยงามของพื้นที่ ความสะอาดที่ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลจนทำให้สะอาดไปทุกพื้นที่ แถมวิวถ่ายรูปก็สวยด้วย เพราะเราสามารถเลือกฉากหลังเป็นเขาตะเกียบ หรือ เขาเต่าก็ได้ตามความต้องการ อีกทั้งยังมีจุดท่องเที่ยวแนะนำอย่าง อ่างเก็บน้ำเขาเต่าให้เราเข้าไปเยี่ยมชมอีกด้วย พิกัดตั้งต้นจากเส้นทางไปปราณบุรี เลี้ยวเข้าซอยหัวหิน 101 จากนั้นขับไปตามเส้นทางจนถึงอ่างเก็บน้ำ มองหาป้ายบอกทางเลี้ยวซ้ายลงหาดเจอเลย ใครยังไม่เคยไปที่ไหน รีบตามไปเช็คอินเลย

10 คาเฟ่สุดชิค ริมชายหาดหัวหิน ที่ไม่ควรพลาด

ไม่ว่าใครก็เลือกที่จะไปเที่ยวหัวหินเพราะอะไรกันนะ? ก็เพราะว่าที่หัวหินเป็นแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจเพียบเลยน่ะสิ เพราะไม่เพียงแต่จะมีธรรมชาติงาม ทะเลสวย ยังมีร้านอาหาร และสถานบันเทิงสุดชิคเต็มไปหมด มันจึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งหลาย โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนๆ ที่กำลังจะออกไปเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศกันประจำปี และวันนี้เราจะพาทุกท่านไปพบกับคาเฟ่ 10 แห่งที่มีเห็นวิวทะเลสวยงาม!

1.Skoop Beach Café

ถ้าคุณกำลังมองหาร้านกาแฟชิวๆ  ริมชายหาด ขอแนะนำเลยกับคาเฟ่ Skoop Beach Café ที่นี่เป็นสถานที่เหมาะสำหรับนั่งสังสรรค์กับเพื่อนๆ นั่งกินอาหารว่างและไอติมเย็นๆ คลายร้อน ร้านนี้ตั้งอยู่ที่บริเวณ ถนนตะเกียบ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/skoopbeachcafe

2.No Name Caff

ถ้าเบื่อบรรยากาศร้านแบบเดิมๆ คุณจะชอบกับร้าน No Name Caff ที่เป็นร้านกาแฟบนรถที่โคตรคูล ซึ่งรถคันนี้จะจอดบริการอยู่ที่หาดเขาเต่า บรรยากาศของร้านเป็นกันเองมากๆ สามารถสอบถามได้ที่เบอร์ 089-122-7094

3.Baan Kafee @ Youyen Garden

บ้านกาแฟหัวหิน ณ อยู่เย็นการ์เด้น เป็นร้านเบเกอรี่เล็กๆ ที่มีการตกแต่งสวยงาม โดยมีสถานที่ตั้งอยู่ที่หัวหิน 1417/4 ถนนเพชรเกษม ร้านตั้งอยู่ริมชายหาดซึ่งมีลมเย็นพัดอยู่ตลอดเวลา เมนูแนะนำของร้านขอบอกว่าเพียบ ไม่ว่าจะเป็นเค้กมะพร้าว หรือเครื่องดื่มชากาแฟ โทรสอบถามได้ที่เบอร์ 094-272-5389

4.Virus Space and Café Seenspace Huahin

วันนี้จะพาไปติดไวรัสกันที่ Virus Space หัวหิน ค่าเฟ่สไตล์วินเทจที่มีพื้นที่กว้างขวาง แอร์เย็นสบาย หรือจะนั่งชมวิวทะเลด้านนอกก็ชิวไปอีกแบบ อาหารและเครื่องดื่มของที่นี่จัดได้ว่ามีความเป็นซิกเนเจอร์สูงมาก

5.Deelek Bistro

คาเฟ่สุดวินเทจที่จะเปลี่ยนบรรยากาศของคุณให้ผ่อนคลายสุดๆ คุณจะได้นั่งทานอาหารพร้อมกับนั่งอ่านหนังสือชิวๆ ถ้าเป็นคนที่ชอบความเงียบสงบแนะนำที่นี่เลย Deelek Bistro 086-864-6637

6.บ้านใกล้วัง

ร้านี้อยู่ที่ ถนนแนบเคหาสน์ มีอาหารไทยอร่อยๆ เพียบ ไม่ว่าจะเป็นขนมจีนน้ำยาปู หรือขนมหวานอย่างเค้กมะพร้าวอ่อน มีที่นั่งริมทะเลให้คุณนั่งรับประทานอาหารไปพร้อมๆ กับทิวทัศน์ของท้องทะเล

7.Sea Terrace

อาหารอร่อย เครื่องดื่มเพียบ คงเป็นคำที่จะใช้อธิบายได้ดีสุดสำหรับร้าน Sea Terrace ที่นี่ทำเมนูน้ำปั่นได้อร่อยสุดๆ ไปเลยล่ะ ร้านนี้อยู่ที่ซอยอ่าวตะเกียบ 7 สอบถามได้ที่เบอร์ 061-1942-959

8.Seen Space

ร้านนี้ตั้งอยู่ที่หัวหิน ซอย 35 เป็นร้านอาหารที่เปิดโล่งให้ลูกค้าได้รับบรรยากาศลมทะเล พร้อมกับท้องฟ้าที่สดใส เหมาะสำหรับเป็นสถานที่ถ่ายรูปอีกด้วย ต้องอย่าพลาดไปเช็คอินเด็ดขาดกับร้าน Seen Space

9.Cha Ba Coffee

ชาบาร์คอฟฟี่ เป็นร้านเครื่องดื่มริมทะเล เหมาะสำหรับมานั่งพักผ่อนหย่อนใจกับครอบครัวและเพื่อนๆ ลิ้มรสไปกับขนมหวานและกาแฟสุดเข้มข้น ร้านอยู่ที่ซอยผาสุกวนิช 8 ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 086-626-4403

10.1d+ Day Artist

สุดยอดสถานที่เช็คอินและร้านอาหารที่อร่อยสุดบนหาดเขาเต่า เป็นร้านสไตล์มินิมอลที่ตกแต่งร้านด้วยตู้คอนเทนเนอร์ และพื้นที่ส่วนใหญ่กเป็นพื้นทรายโล่งๆ มินิมอลไหมล่ะ แต่อาหารเรียกได้ว่าจัดเต็มสุดๆ ไปเลยกับร้านแห่งนี้ โดยเฉพาะของหวานและเครื่องดื่ม

แนะนำสถานที่เที่ยวถ้ำลับแลหัวหิน

เมื่อพูดถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลายๆ คนย่อมจะนึกถึงแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตอย่าง ‘หัวหิน’ อันประกอบไปด้วย เพลินวาน , หาดหัวหิน , วังไกลกังวล เป็นต้น แต่วันนี้เราจะมาแนะนำแหล่งท่องเที่ยวในหัวหินที่น่าสนใจแห่งหนึ่งกัน
ถ้ำลับแลหัวหิน
ตั้งอยู่ในพื้นที่ของวนอุทยานห้วยน้ำซับ อ.บางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยเป็นถ้ำแห่งนี้ เป็นถ้ำอันมีความสวยงามมาก ภายในเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยยาวตามตลอดแนวถ้ำ มีเนื้อที่ประมาณ 350 ตารางวา ภายในจัดเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ โดยในช่วงหน้าฝน จะมีน้ำตกยาวประมาณ 20 เมตรไหลหล่นลงมา ดูน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ซึ่งน้ำที่ไหลมาจากน้ำตกก็จะตกหายลงไปในบริเวณพื้นถ้ำ
ปากถ้ำจะมีพระพุทธรูปสีขาวประดิษฐานอยู่ และมีการติดตั้งไฟฟ้าบางจุด ถ้าพกไฟฉายมาเองด้วยก็จะดีมาก ทางลงถ้ำค่อนข้างลึก ขอให้เดินด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ภายในถ้ำมีความเย็นสบาย อีกทั้งยังเป็นแหล่งอาศัยของค้างคาวน้อยใหญ่ เกาะอยู่บนบริเวณเพดานถ้ำ บางครั้งมันก็ส่งเสียงร้องทักทายผู้มาเยือนเป็นระยะๆ ค้างคาวในถ้ำนี้ไม่กลัวคนเท่าไหร่นัก มีแต่คนมากกว่าที่กลัวค้างคาว โดยบางครั้งมันก็จะบินเชี่ยวศีรษะไปมา และขอให้ระวังมูลค้างคาวเอาไว้ด้วย ถ้ำมีซอกหลืบให้เข้าไปสำรวจมากมาย
โดยถ้ำแห่งนี้ อยู่ในความดูแลของสำนักสงฆ์ถ้ำลับแล พระสงฆ์มีเมตตาจิตให้นักท่องเที่ยวยืมกระบอกไฟฉายเพื่อนำไปใช้ในการเยี่ยมชมถ้ำได้ ด้านในถ้ำมีอากาศถ่ายเทพอหายใจสะดวก ถ้ำยังคงมีความเป็นธรรมชาติสูง มีหินงอกหินย้อยสวยงาม บางจุดมีลักษณะคล้ายน้ำตก บางจุดหินงอกจากพื้นถ้ำจวบจนไปชนกับหินย้อยจากเพดาน เมื่อเยี่ยมชมเสร็จแล้ว คุณสามารถทำบุญตามกำลัง เพื่อเป็นการสนับสนุนเป็นค่าไฟฟ้าสำหรับให้แสงสว่างในถ้ำ ได้ที่สำนักสงฆ์ถ้ำลับแล ข้อห้ามของการชมถ้ำคือ อย่าเอามือไปจับหินงอกหินย้อย เพราะความร้อนและไขมันบนมือของมนุษย์จะทำให้มันเกิดการเปลี่ยนสี หรือเกิดความเสียหายได้
วนอุทยานห้วยน้ำซับ
สภาพป่าของวนอุทยานห้วยน้ำซับมีความอุดมสมบูรณ์ พันธุ์ไม้ขึ้นปกคลุมอย่างหนาแน่น เป็นบ้านของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด อีกทั้งยังมีถ้ำสวยงามถึง 8 แห่ง โดยถ้ำลับแล เป็นหนึ่งในนั้น ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีต้นปอคาวจะออกสีแสดบานสะพรั่ง และ 10 กุมภาพันธุ์ของทุกปี ทางวนอุทยานจะจัดเทศกาล “ขึ้นเขา เผาข้าวหลาม ชมดอกกาสะลองบาน” ดึงดูดผู้คนจำนวนมาก

ชายหาดหัวหินสถานที่เที่ยวต้องไปโดนสักครั้ง

‘หัวหิน’ นอกจากจะเป็นถิ่นมีหอยแล้ว ก็ยังมีหาดทรายสวยงามน่าเดินทางไปพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง โดยชายหาดหัวหินตั้งอยู่ในอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นอีกหนึ่งชายหาดที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นสถานพักตากอากาศของเจ้าขุนมูลนายในสมัยโบราณ มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน ตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3

ระยะทางจากกรุงเทพ มาหัวหิน คือ 200 กิโลเมตร หรือขับรถแค่ 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น นั่นจึงทำให้หัวหินเป็นสถานที่พักผ่อนในวันหยุดสุดฮิตของคนกรุงเทพฯ และชาวต่างชาติ บริเวณชายหาดหัวหินอัดแน่นไปด้วย ที่พัก , โรงแรม , รีสอร์ท ตั้งแต่ ดาวเดียว ไล่ไปจนถึงระดับ 5 ดาว ซึ่งชายหาดหัวหินไม่มีถนนคั่นกลาง ทำให้ถ้าคุณไม่ได้พักติดหาด ก็อาจจะหาทางลงทะเลยากซักนิดนึง แต่ก็มีทางลงทะเลอยู่หลายซอย

ถ้าคุณคิดว่าจะนั่งเตียงผ้าใบริมหาดเพื่อทานอาหาร ขอให้คุณเช็คราคาให้ดีเสียก่อน เนื่องจากหลายร้านมีราคาค่อนข้างสูง อาจเสียความรู้สึกได้

ชายหาดหัวหิน เริ่มต้นตั้งแต่อุโมงค์หัวหิน จวบไปจนถึงเขาตะเกียบ มีระยะทางทั้งหมด 13 กิโลเมตร จัดเป็นชายหาดสะอาด , ทรายนวล , น้ำทะเลมีความใสพอประมาณ แต่อย่างไรก็เหมาะกับการลงเล่นน้ำเป็นอย่างมาก

ส่วนกิจกรรมริมชายหาดหัวหิน จะแตกต่างจากชายหาดอื่น ซึ่งมีเครื่องเล่นทางน้ำมากมาย โดยหาดแห่งนี้จะเป็นหาดเงียบๆ เหมาะแก่การมาพักผ่อน ส่วนกิจกรรมริมชายหาดก็จะมี การเล่นน้ำ , ฟุตบอลชายหาด และขี่ม้ารับลมริมชายหาด

ลงไปยังหาดจากตรงไหนได้บ้าง ?

ทางลงหาดหัวหิน

เริ่มต้นด้วยทางลงอย่างเป็นทางการที่สุด เนื่องจากเป็นจุดลงชายหาดหลัก ซึ่งทางราชการก็ได้มาทำป้ายซุ้มประตูทางลงเอาไว้ด้วย จุดนี้หาดค่อนข้างกว้าง , มีความสวยงามมาก , มีต้นมะพร้าวยืนเรียงรายอยู่ประปราย ซึ่งจากจุดนี้นี่เองเป็นที่มาของชื่ออำเภอหัวหิน

สวนสาธารณะ 19 ไร่

สวนสาธารณะแห่งเดียวของหัวหิน ตั้งอยู่ในซอยหัวหิน 19 ติดชายหาดสวยงาม รวมทั้งมีลานออกกำลังกาย

หาดตะเกียบ หัวดอน

เป็นแหล่งชุมชนสำคัญอีกแห่งของหัวหิน เต็มไปด้วยที่พัก , สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ซึ่งอยู่ใกล้เคียง และหมู่บ้านชาวประมง ชายหาดมีลักษณะกว้างขวาง

สวนสนประดิพัทธ์

บรรยากาศของสวนสนประดิพัทธ์ถูกรายล้อม ไปด้วยต้นสนมากมาย ชายหาดกว้างและยาวสุดลูกหูลูกตา อุดมไปด้วยร้านค้า , ร้านอาหาร รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

หาดเขาเต่า

เป็นอีกหนึ่งชุมชนสำคัญของหัวหิน ชายหาดตรงนี้ก็สวยงามไม่แพ้ชายหาดอื่นๆ มีความกว้างขวางสวยงาม สามารถมองเห็นได้ทั้งเขาตะเกียบ และเขาเต่า

ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน ห้างใหม่ที่ต้องแวะ

ศูนย์การค้าบลูพอร์ต เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่สุดในหัวหินขนาดความสูง 5 ชั้น ด้วยทำเลที่ตั้งติดกับทะเล มีบริเวณพื้นที่กว้างกว่า 150,000 ตารางเมตร ทำให้มีพื้นที่รองรับลูกค้าได้มากกว่าหลายหมื่นคน โดยเป็นอภิมหาโปรเจคที่ใช้เวลาสร้างกันมาอย่างยาวนาน จนแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา ด้วยการทำงานของสถาปนิกที่มีความสามารถหลายคนร่วมกัน ทำให้ศูนย์การค้าแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่สถานช้อปปิ้งธรรมดา เมื่อผู้คนก้าวประตูลงจากรถ สิ่งที่พวกเขาได้จะสัมผัสคือไอลมของทะเลที่ลมพัดโชยเขามาผ่านช่องต่างๆ ภายใต้การดีไซน์แบบผสมผสานระหว่างเมดิเตอร์เรเนียน เมืองคานส์ และประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ทำให้ได้ตัวอาคารที่มีความหลากหลาย เหมาะกับเป็นสถานที่ถ่ายรูปได้ไม่ซ้ำกัน

ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวจุดสำคัญแห่งหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวเลือกจะแวะเวียนกันเข้าไปใช้บริการ นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ ก็คือสวนสนุกน้ำ ที่เด็กๆ หลายคนเห็นคงต้องร้องลั่น อยากเข้าไปเล่นกันอย่างแน่นอน โดยสวนสนุกแห่งนี้มีขนาดกว่า 2,000 ตารางเมตร โดยตั้งอยู่บนชั้น 3 ของบลูพอร์ต ซึ่งจัดโซนไว้ให้เล่นได้ 3 โซน โดยมีเครื่องเล่นอื่นๆ ให้เลือกเล่นอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเกมตกปลา เกมผจนภัย เกมแข่งรถ และอื่นๆ ต่อมาคือ ไฮไลท์อีกอย่างสำหรับนักช้อปและนักท่องเที่ยว คือโซน Port Walk ที่ตั้งอยู่บนชั้นใต้ดิน มีการตกแต่งห้องต่างๆ ในสไตล์ท่าเรือยุคโบราณ ทำให้คุณเหมือนเดินอยู่ในท่าเรือจริงๆ ร้านแต่ละแห่งก็มีการตกแต่งที่แตกต่างกันออกไป เหมาะสำหรับการไปถ่ายรูปเล่น และช้อปปิ้ง ภายในมีร้านค้าเครื่องสำอางค์ และของใช้แบรนด์ดังมากมายกว่าร้อยชนิด

ด้วยความที่ห้างที่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าอย่างมาก และสถานบริการยอดเยี่ยม ทำให้มีลูกค้าแวะเข้ามาไม่ขาดสายโดยเฉพาะทัวร์ต่างๆ ที่เลือกจะมาท่องเที่ยวและเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าหัว หิน เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศ นอกจากจะเดินทางไม่ไกลจากตัวเมืองหลวงกรุงเทพมหานครมากแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ปัจจุบันหัวหินมีพื้นที่กว่า 839.9 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกนำมาใช้สร้างรีสอร์ทและสถานท่องเที่ยวมากมาย

ห้างบูลพอร์ตเปิดทำการททุกวันตั้งแต่เวลา 10 โมง ถึง 3 ทุ่ม ส่วนช่วงวันหยุด ตั้งแต่วันศุกร์ – เสาร์ ประตูห่างจะเปิดตั้งแต่เวลา 10 โมง จนถึง 4 ทุ่มเลยทีเดียว หากคุณได้มีโอกาสได้มาเที่ยว ขอแนะนำว่าอย่าพลาดลองมาเดินชมความแปลกใหม่ของห้างสไตล์ท่าเรือแห่งนี้กันเถอะครับ